มดแดงส้ม
มดแดง เป็นแมลงในอันดับ Hymenoptera ในกลุ่มเดียวกับ ผึ้ง ต่อ และ แตน การเจริญเติบโต จะผ่านการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ มีวงจรชีวิต 4 ระยะ คือ ไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย มดแดงส้ม จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Formicinae สกุล Oecophylla ลักษณะเด่นของมดชนิดนี้ คือ ส่วนเอวมี 1 ปล้อง ส่วนของกราม ( mandible ) มีฟัน 10 ซี่ หนวดมีปล้องจำนวน 12 ปล้อง ส่วนท้องยกขึ้นเหนือส่วนอก ทั่วโลกพบมดในสกุล Oecophylla 13 ชนิด ในประเทศไทยมีเพียงหนึ่งชนิด คือ Oecophylla smaragdina และมีชื่อสามัญว่า Weaver ants หรือ Green ants ลักษณะเด่นของมดชนิดนี้ คือ มีขนาดใหญ่ และทำรังบนต้นไม้ แต่มีการสำรวจพบการทำรังในบ้านเรือนด้วยเช่นกัน มดแดงส้มมีพฤติกรรมการสร้างรังที่เป็นเอกลักษณ์ คือ มดจะต่อตัวโดยมดงานและใช้กรามคาบส่วนประกอบของร่างกายมดภายในรังด้วยกัน เพื่อดึงใบไม้มาชิดติดกัน และเชื่อมขอบใบไม้ภายในและภายนอกด้วยสารจากส่วนท้องของตัวอ่อนมด มาถักทอรังให้เชื่อมคิดกัน ลักษณะของใย มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม มดแดงส้ม เป็นสัตว์กินเนื้อ และอาจเสริมด้วยน้ำหวานจาก เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่น และผีเสื้อบางชนิด มดแดงส้มมีวรรณะภายในรังเช่นเดียวกับมดชนิดอื่นๆ คือ มี 3 วรรณะ คือ นางพญา ( Queen ) ราชา ( King ) และ มดงาน ( Workers ) มดงานยังแบ่งการทำหน้าที่แตกต่างกันตามขนาดที่ต่างกัน เช่น มดงานขนาดเล็ก มีหน้าที่ดูแลตัวอ่อนและไข่ มดงานขนาดย่อมมีหน้าที่ดูแลซ่อมแซมรังและหาอาหาร ส่วนมดแดงส้มขนาดใหญ่มีหน้าที่ หาอาหารและปกป้องรังจากผู้รุกราน มดแดงส้มไม่มีเหล็กในเพื่อปกป้องจากศัตรู แต่พวกมันใช้วิธีกัดและฉีดสารที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ที่ชื่อ Formic acid มดจะฉีดสารนี้เพื่อขับไล่ศัตรู หรือฉีดเข้าใส่บาดแผลของศัตรูทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบสารนี้นอกจากมีค่าความเป็นกรดแล้วยังมีกลิ่นฉุน ทำให้ศัตรูร่นถอย
ในประเทศไทยมีการบริโภคตัวอ่อนดักแด้ และตัวเต็มวัยของมดแดงส้มมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจะใช้ชะลอมหรือกระบุงผูกติดปลายไม้ไผ่และแหย่ไปที่รัง ทำให้ตัวอ่อนและดักแด้ของมดงานร่วงลงภาชนะรองรับ จากนั้นจะใช้ไฟผามดงานเพื่อไม่ให้มดงานคาบตัวอ่อนและดักแด้หนีไปบริเวณอื่น มาถึงยุคปัจจุบัน ภาชนะพลาสติกที่มีคุณสมบัติ เบาและคงทนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ภาชนะสอยไข่มดแดงจึงเปลี่ยนจากการใช้กระบุงหรือชะลอม เป็นถังพลาสติก หรือ กระสอบพลาสติกผูกติดปลายไม้แทน และเปลี่ยนวีธีไล่มดงานป้องกันการคาบไข่หนีโดยการใช้ แป้งมันสำปะหลัง มดแดงจะไม่คาบไข่หนี นับเป็นภูมิปัญญาที่เป็นผลผลดี มดงานเหล่านั้นจะสามารถเข้าซ่อมแซมรังและดูแลนางพญาเพื่อผลิตไข่ชุดใหม่ต่อไป ฤดูร้อนเป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการสอยไข่มดแดง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่นางพญาผลิตทายาท เพื่อขยายอาณาเขตประชากรของรัง พอถึงฤดูฝนอาหารในธรรมชาติมีมาก มดนางพญารองจะออกจับคู่ผสมพันธุ์เพื่อไปสร้างอาณาจักรใหม่ต่อไป
ไข่มดแดง
ไข่มดแดงจัดว่าเป็นอาหารตามฤดูกาล ในช่วงฤดูร้อน หรือประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ เรื่อยไปจนถึงเดือนมิถุนายน โดยสามารถแบ่งไข่มดแดงออกไปเป็นสองชนิด คือ ไข่ผาก เป็นไข่ที่มดแดงออกมาเพื่อให้เจริญเติบโตเป็นตัวมดแดง จะมีลักษณะเล็ก ลีบ ฝ่อ ไม่เต่งตึง ส่วนใหญ่แล้วไข่ผากจะมีตลอดทั้งปี แต่ก็ไม่นิยมนำมาปรุงอาหาร เนื่องจากมีรสเปรี้ยว และเลือกไข่ออกจากแม่มดแดงได้ยาก ถ้านำมาปรุงอาหารก็จะใช้ใส่ต้มยำ หรือใส่อาหารเพื่อให้มีรสเปรี้ยว
ส่วน ไข่ใหญ่ หรือ ไข่มดแดง จะมีขนาดใหญ่เต่งตึง และมีน้ำในไข่มากกว่าไข่ผาก ไข่ใหญ่จะเจริญเติบโตออกมาเป็นแม่เป้ง ซึ่งเป็นมดแดงอีกแบบหนึ่งที่สามารถบินได้ เมื่อแม่เป้งโตเต็มที่แล้วก็จะออกไข่มาเป็นลูกมดแดง ไข่ใหญ่จะมีเฉพาะในฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่มดแดงจะเร่งแพร่ขยายพันธุ์ รังมดแดงที่มีไข่ใหญ่ เต่งและตึงจะเริ่มมีไข่ตั้งแต่ช่วงปลายฤดูหนาวประมาณเดือน กุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือนมิถุนายน
ไข่มดแดงสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายเมนู อย่างเช่น ทำไข่เจียวมดแดง ยำไข่มดแดง ต้มไข่มดดำกับหัวหอม หรือแกงกะทิสับปะรดมดแดง เป็นต้น ซึ่งไข่มดแดงนั้นก็มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีน ฟอสฟอรัส และแคลเซียม มีสรรพคุณทางยาช่วยระบายท้อง ช่วยให้เจริญอาหาร และเป็นอาหารบำรุงธาตุน้ำ แต่มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ถ้าหากกินมากจะทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ต้องรับประทานให้พอดีจึงจะดีต่อสุขภาพศัตรูในธรรมชาติของมดแดง
ศัตรูในธรรมชาติของมดแดงได้แก่
หนอนของผีเสื้อมอธ ( moth butterfly ) ซึ่งอยู่ในวงศ์ Lycaenidae วงศ์ย่อย Lipharinae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Liphyra brassolis พบแพร่กระจายตั้งแต่ อินเดีย ไทยพม่า มาเลเซีย ไปจนถึง ออสเตรเลีย เป็นเสื้อขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับผีเสื้อในวงศ์เดียวกัน ตัวอ่อนเป็นศัตรูที่สำคัญของมดแดงส้ม เพศเมียจะหาที่วางไข่ที่เหมาะสมนั่นก็คือ บริเวณต้นไม้ที่มีรังมดแดงอยู่นั่นเอง หนอนจะตามกลิ่นของฟีโรโมนของมดที่ติดอยู่บริเวณเส้นทางเดินของมดจากนั้นจะ เริ่มปล่อยฟีโรโมนเลียนแบบมด เพื่อแปลงกายเป็นสมาชิกภายในรัง จากนั้นจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ห้องเก็บตัวอ่อนเพื่อกินตัวอ่อนมดเป็นอาหาร จนเติบโตเป็นตัวเต็มวัยต่อไป
แมงมุมกระโดด
แมงมุมกระโดดในวงศ์ Saltisidae ที่มีชื่อสามัญว่า Kerengga ant-like jumper และชื่อวิทยาศาสตร์คือ Myrmarachne plataleoides เป็นแมงมุมที่กินมดแดงส้มเป็นอาหาร โดยการ ที่มันมีตารวม ( compound eyes ) ที่มีประสิทธิภาพสูงมันจึงหลีกเลี่ยงจากการถูกมดโจมตี จากมดได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจะเข้าไปขโมยตัวอ่อนของมดกินเป็นอาหาร และบางครั้งก็พบว่ามันโจมตีมดตัวเต็มวัยเป็นอาหารด้วยเช่นกันอาหารที่นิยมทำจากไข่มดแดง
- ไข่เจียวไข่มด
- แกงส้มไข่มดแดง
- ก้อยไข่มดแดง
- คลุกเกลือห่อใบตองย่างไฟ
- ห่อหมกไข่คลุกไข่มดแดง
- เอาะไข่มดแดง
หลังจากที่เรารู้เกี่ยวกับมดแดงไปพอสมควรแล้ว เราไปดูเมนูอาหารที่ได้จากไข่มดแดงกันเลยค่ะมีเมนู
ก้อยไข่มดแดง ไข่เจียวไข่มดแดง และ แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง
ก้อยไข่มดแดง ไข่เจียวไข่มดแดง และ แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น