ซุบหน่อไม้,แกงหน่อไม้

เมนู ซุบหน่อไม้
                 หลังจากที่เราได้รู้จัก เกี่ยวกับหน่อไม้ ไปคร่าวๆแล้ว ทีนี้ก็มารู้จักกับเมนูอาหารของหน่อไม้กันนะคะซุปหน่อไม้เป็นอาหารที่เป็นที่นิยมของชาวอีสานเช่นกัน  ซึ่งสามารถหากินได้แทบจะทุกจังหวัด  แต่กรมวิธีในการปรุงซุปหน่อไม้นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละถิ่น  แต่ก็ไม่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซุปหน่อไม้ก็เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆของภาคอีสานคือจะมีรสจัดจ้าน  และมีเครื่องปรุงหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ  น้ำปลาร้า  เรียกได้ว่าชาวอีสานทุกครัวเรือน  จะต้องมีน้ำปลาร้าประจำอยู่ในครัว  ถ้าไม่มีอาหารอะไรก็จะเอาปลาร้ามาตำน้ำพริกรับประทานกับผักสดที่ปลูกอยู่ข้างบ้าน  ถือเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอย่างหนึ่งของชาวอีสาน   ที่มีลักษณะการดำรงชีวิตแบบง่ายๆ คือ อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ  และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่รอบๆตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด  และรู้จักประยุกต์ใช้ทรัพยากรในหลายๆด้าน


วิธีการทำซุบหน่อไม้
เครื่องปรุง
  • หน่อไม้ขูดเป็นเส้นฝอย  300 กรัม
  • น้ำคั้นจากใบย่านาง 2 ถ้วย
  • น้ำปลาร้า  เกลือ  น้ำปลา  น้ำมะนาว
  •  ผักชีฝรั่งซอย
  • ต้นหอมซอย
  • ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบ
  • งาคั่วถั่วลิสงคั่ว
  • พริกป่น
  • ข้าวเหนียวแช่น้ำจนอิ่มตัว
วิธีทำ
   - นำมาขูดเป็นเส้นฝอยๆ แล้วนำไปต้มให้หายขม
   - ใบย่านาง คั้นให้ได้นำค้นเขียวประมาณ2ถ้วย
   - คั่วงา ถั่ว โดยใช้ไฟอ่อนๆ แล้วร่อนเอาฝุ่นอกให้หมด โขลกพอหยาบเอาไว้โรยหน้าหรือจะโขกรวมกับซุปหน่อไม้ก็ได้


    - หั่นผักทุกชนิดแบบฝอย หอมแดงเผา พริกสดเผา





   - นำหน่อไม้มาบีบน้ำออกให้หมด ใส่ลงในน้ำใบย่านาง  เติมเกลือน้ำปลาน้ำปลาร้า แล้วต้มให้น้ำย่านางสุกจนน้ำขลุกขลิก
   - โขลกพริกและหัวหอมที่เผาแล้วให้ละเอียด ใส่เนื้อปลาลงโขลก ใส่หน่อไม้ที่ต้มกับใบย่านางแล้วลงไป   .ปรุงรสอีกครั้ง ชิมดูรสตามความต้องการ แล้วใส่ งา ผักที่หั่นไว้ ใส่พริกป่นที่เตรียมไว้ถ้าหากชอบรสเผ็ด

    - จัดใส่จานรับประทานกับผักสดพื้นบ้าน
  ข้อควรรู้
   - ควรรับประทานหลังทำเสร็จใหม่ๆจะแซ๊บที่สุด
   - หน่อไม้ควรเป็นหน่อไม้ใหม่ๆและอ่อนเส้นหน่อไม้ที่ขูดควรเส้นเล็กหรือบาง
   - ถ้าไม่ชอบปลาร้าใส่นำปลาแทนก็ได้
   - นำซุปหน่อไม้ควรจะขลุกขลิกเล็กน้อยและข้น
   -ไม่ใสน้ำใบหญ้านางก็ได้ใส่เป็นพวกแจ่วปลาเป็นน้ำปรุงรสเลยก็ได้

เมนูแกงหน่อไม้

วิธีทำแกงหน่อไม้
เครื่องปรุง
หน่อไม้รวกเผา                                            5 หน่อ (300 กรัม)
ใบย่านาง                                                    20 ใบ (115 กรัม)
เห็ดฟางฝ่าครึ่ง                                           ½ ถ้วย (100 กรัม)
ชะอมเด็ดสั้น                                               ½ ถ้วย (100 กรัม)
ฟักทองหั่นชิ้นพอคำ                                     ½ ถ้วย (100 กรัม)
ข้าวโพดข้าวเหนียวฝานเอาแต่เมล็ด               ½ ถ้วย (100 กรัม)
แมงลักเด็ดเป็นใบ                                         ½ ถ้วย (100 กรัม)
ตะไคร้ทุบหั่นท่อน                                           2 ต้น
น้ำปลาร้า                                                       2   ช้อนโต๊ะ
น้ำ                                                                 3-4 ถ้วย
กระชายทุบ                                                    ½ ถ้วย (100 กรัม)
พริกขี้หนู                                                        10  เม็ด
ข้าวเบือ                                                            1  ช้อน
น้ำปลา                                                             2 ช้อน
( ข้าวเบือ คือ ข้าวเหนียวแช่น้ำประมาณ 20 นาทีขึ้นไป  แล้วนำมาโขกใช้ละเอียด )
วิธีทำ
     1. โขลกข้าวเบือให้ละเอียด
     2. ปอกเปลือกหน่อไม้ ตัดส่วนแก่ทิ้ง ตัดเป็นท่อนยาว 2 นิ้ว ต้มน้ำทิ้ง 2-3 ครั้ง ให้หายขื่น
     3. โขลกใบย่านาง แล้วนำไปคั้นกับน้ำ ให้น้ำใบย่านางออก กรองใส่หม้อ
     4. นำ หม้อที่ใส่น้ำใบย่านางยกขึ้นตั้งไฟ ใส่หน่อไม้พอเดือดใส่กระชาย พริกขี้หนู ตะไคร้ ข้าวเบือ น้ำปลาร้า น้ำปลา ต้มสักครู่ ใส่ฟักทอง เห็ดฟาง ข้าวโพด เมื่อทุกอย่างสุกทั่วกันดี ใส่ชะอม ใบแมงลัก ยกหม้อลง
สรรพคุณทางยา
  • หน่อไม้ มีรสขมหวานร้อนราก รสอร่อยเอียนเล็กน้อย ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ใบไผ่ เป็นยาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย
  • ย่านาง มีรสจืด ทั้งต้นนำมาปรุงเป็นยาแก้ไข้กลับ ใบ ใช้เป็นยาถอนพิษ ปรุงรวมกับยาอื่นแก้ไข้ ราก แก้เบื่อเมา กระทุ้งพิษไข้ เป็นเมาสุรา ถอนพิษผิดสำแดง
  • เห็ดฟาง (เห็ดบัว) รสจืด ให้พลังงานและสารอาหารโปรตีนที่มีคุณค่าแทนเนื้อสัตว์ช่วยกระจายโลหิต
  • ชะอม รากชะอมมีสรรพคุณแก้ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้แก้อาการปวดเสียวในท้องได้ดี ยอดชะอมใบอ่อน มีรสจืด กลิ่นฉุน(กลิ่นหอมสุขุม) ช่วยลดความร้อนของร่างกาย
  • ฟักทอง มีคุณค่าทางอาหารสูง บำรุงสายตา บำรุงร่างกาย
  • ข้าวโพด รสหวานมัน เมล็ด เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมาน บำรุงหัวใจ ปอด เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
  • แมงลัก ใบสด รสหอมร้อน เป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้โรคท้องร่วง ขับลม 
  • ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
  • กระชาย รสร้อน แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลม แก้บิดมีตัว ขับพยาธิตัวกลม และพยาธิเส้นด้ายในเด็ก ใช้แต่งกลิ่น สี รสอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่มีพิษ
 อยากรู้เรื่องอาหารอีสานอื่นๆติดตามได้นะคะ  เมนูที่แนะนำ  เมนูซั้วงูสิง , เมนูหมกเขียดตุ้งติ้งเมนูแกงเห็ดเผาะเมนูก้อยไข่มดแดง ไข่เจียวไข่มดแดง แกงผักหวานไข่มดแดง   เลือกศึกษาได้เลยค่ะ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากกินหลายเด้
คึดฮอดบ้าน^^

แสดงความคิดเห็น